การตลาดแบบเน้นยอดขายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอนัก เพราะมนุษย์เองควรใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เพราะประชากรยุคหลัง ๆ เริ่มตระหนักรู้ต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น อีกทั้งยังรณรงค์ให้ใช้วัสดุแบบ eco-friendly ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้พวกเขาเลือกชอยส์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศกันน้อยลง จึงเกิดการตลาดแบบรักษ์โลกขึันมา ทาง NEO LIFE MEDIA จึงอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังกัน
เป้าหมายของการตลาดสีเขียวก็คือ เป็นกระบวนการผลิตและบริโภคสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยที่สุด และสร้างขยะน้อยที่สุด หรือสามารถย่อยสลายได้ง่าย อีกทั้งสามารถใช้ได้อย่างยั่งยืน เช่น สามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่เหลือมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เหตุผลที่แนวคิดเหล่านี้ได้ผล เพราะที่ผ่านมา ประชากรทั่วโลกเผชิญสภาวะ climate change และผลกระทบจากธรรมชาติอีกมากมาย ทำให้อากาศแปรปรวน เช่น โลกร้อน ฝนไม่ตกตามฤดูกาล และสัตว์บางชนิดเริ่มสูญพันธุ์ จึงเกิดการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น พร้อมกับการตระหนักรู้ว่ามนุษย์ควรร่วมมือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อนที่จะสายเกินแก้ การตลาดเหล่านี้จึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดี เพราะไม่เพียงแต่จะเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังช่วยส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงอีกด้วย และสิ่งเหล่านี้เองที่จะช่วยดึงดูดความสนใจกลุ่มลูกค้าได้ดังนี้
1. บรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ตามกระบวนการ Recycle เพราะกระบวนการนี้จะช่วยลดขยะ และลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไม่จำเป็น โดยเห็นได้จากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชื่อดังจาก Ingu ที่บรรจุภัณฑ์เป็น CPR (Post - Consumer Recycled) แม้ว่าพลาสติกจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ยากมาก ๆ แต่ถ้าบรรจุภัณฑ์เป็น CPR คุณสามารถนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาทำความสะอาด และส่งไปยังโครงการสีเขียวทั่วไปได้ตามกระบวนการต่อไป หรือบางบรรจุภัณฑ์สามารถระบุหน้าถุงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ PP (Polypropylene) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำมารีไซเคิลใหม่ได้อีกครั้ง
2. ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้อย่างยั่งยืน (Sustainable) ให้ทุกคนนึกถึงเสื้อผ้า Fast Fashion ที่สามารถสวมใส่ได้ในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้จะต้องตามเทรนด์ ตามกระแสนิยม เน้นการจำหน่ายทีละเยอะ และคุณภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เมื่อกระแสแฟชันเหล่านี้หมดไป ผู้คนจึงโละเสื้อผ้า Fast Fashion และไม่ค่อยนำมาสวมใส่อีกครั้ง เพราะเมื่อสวมใส่อีกหลายครั้ง คุณภาพก็แย่ลงได้ง่าย อีกทั้งต้นทุนในการผลิตค่อนข้างต่ำเพราะค่าจ้างและคุณภาพแรงงานต่ำ จึงเป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนเริ่มหันมาโบกมือลาเสื้อผ้า Fast Fashion ซึ่งเป็นอีกสาเหตุในการสร้างขยะ และหันมาสวมใส่เสื้อผ้าที่วัสดุคงทน ไม่เอาเปรียบแรงงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลายรายพยายามใช้ซ้ำ หรือพยายามรณรงค์ให้สวมใส่เสื้อผ้ามือสองกันมากขึ้น บางรายนำเสื้อตัวเก่าที่สวมใส่ไม่ได้แล้ว มาประดิษฐ์เพื่อให้เป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องทิ้งเสื้อผ้าตัวเดิม ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีในการขายเสื้อผ้าแบบใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น และเป็นจุดขายที่ดีและดึงดูดลูกค้าได้อีกหลายคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว แต่เป็นวัสดุอย่างอื่นได้ เช่น ขวดน้ำ แก้ว เพราะเมื่อร้านอาหารเสิร์ฟน้ำมาให้ลูกค้า กลับพบว่าบางส่วนเป็นแก้วน้ำเป็นแก้วพลาสติกและแก้วกระดาษ ท้ายที่สุด แก้วเหล่านั้นนั้นจำเป็นต้องทิ้งเป็นขยะอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อปรับมุมมอง สิ่งนี้ก็สามารถสร้างจุดขายให้กับลูกค้าได้ เช่น ทางร้านระบุว่างดใช้แก้วน้ำพลาสติกเพื่อลดการสร้างขยะ แต่ใช้แก้วน้ำที่สามารถทำความสะอาดแล้วใช้ใหม่ได้ เช่น แก้วสแตนเลส หรือการตลาดแบบสตาร์บัคส์ที่รณรงค์ให้ลูกค้านำแก้วส่วนตัวมาเอง เพื่อรับลาเต้ร้อนหรือเย็นฟรี หรือลดราคาเครื่องดื่ม จุดประสงค์คือต้องการให้กลุ่มลูกค้าลดขยะจากแก้วกระดาษและแก้วกระดาษ ถือว่าเป็นการตลาดที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นประเด็นในวงกว้างบนโลกโซเชียล หรือทางอีเกีย (Ikia) ธุรกิจชื่อดังทางด้านเฟอร์นิเจอร์ ใช้ผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ยั่งยืน (Sustainable) กว่า โดยไม้มากกว่า 98% ที่นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์อีเกียนั้นได้รับการรับรองตามหลัก FSC (Forest Stewardship Council) เป็นองค์กรป่าไม้ไม่แสวงหากำไรที่ได้รับการยอมรับตามหลักสากล หรือผลิตภัณฑ์นั้นสามารถนำมารีไซเคิลได้
3.วัสดุย่อยสลายทางชีวภาพ (Biodegradable) เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และลดการเกิดขยะ เป็นสินค้าที่หาได้ไม่ไกลตัวสักเท่าใดนัก เช่น กล่องข้าวเยื่อธรรมชาติ ในยุคนี้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มหันมาใส่ใจธรรมชาติกันมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนผู้คนจะบริโภคอาหารจากกล่องพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีทางเลือกใหม่ ๆ เข้ามา ทำให้ลูกค้าสบายใจมากขึ้นที่มีส่วนช่วยในการลดขยะ อีกทั้งราคายังจับต้องได้ พ่อค้าแม่ค้าสามารถสร้างจุดขายตรงนี้ขึ้นมาได้ หรือบางรายเปิดร้านอาหารที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง เพื่อบรรจุวัสดุอาหาร ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจและแปลกใหม่มากทีเดียว
หากต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ปังขึ้น การคิดคอนเทนต์ให้น่าสนอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เพราะในยุคนี้ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมชาติกันมากขึ้น และพวกเขาต่างต้องการลดปัญหาเหล่านี้ลงมา โดยหลายคนเชื่อว่า นี่เป็นสิ่งที่ควรรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้คุณภาพธรรมชาติและมนุษย์ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งพวกเขาตระหนักถึงคนรุ่นหลังอีกด้วย เพื่อไม่ให้คนและสิ่งมีชีวิตรุ่นหลังเผชิญกับปัญหาทางธรรมชาติเหล่านี้อีก
Comments